บทที่ 1 อยากมีความสุขจังเลย
อยากมีความสุขมาทางนี้ ธรรมะอยู่ที่นี้ธรรมะฮาเฮเล่มนี้ อาตมาตั้งใจว่า อยากทำให้คุณโยมทุกคนที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้วล้วนมีความสุขกันทุกวัน และทุกๆ คนเลยนะ คุณโยมเคยได้ยินคนบ่นไหมว่า
“อยากมีความสุขจังเลย”
อยากมีความสุขจังเลย เป็นคำพูดที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นะคุณโยม ได้ยินทุกวัน แต่ทำไมหายากกันเหลือเกิน อันดับแรกทำง่ายๆอย่างนี้เลยคุณโยม
ตื่นเช้ามาอันดับแรก อย่าไปเลือกอารมณ์เสียโดยเด็ดขาดตื่นเช้ามาจะต้องเริ่มต้นทำตัวเองให้อารมณ์ดีก่อน เรื่องไหนไม่ดีไม่ต้องไปดู ไม่ต้องไปสนใจฟัง ข่าวทีวีช่องไหนเสนอข่าวเห็นว่าดูแล้วจะหดหู่ ฟังแล้วอารมณ์เสีย กดรีโมทเปลี่ยนช่องหนีเลย กดไปหลายๆช่อง กดไปช่องโน้นเปลี่ยนมาช่องนี้ มันก็เจอข่าวเดี่ยวกันทุกช่องปิดทีวีเลย ไม่ต้องไปดู
เช้ามาต้องเริ่มงานกันทุกคนใช่มั้ย เริ่มจากตัวงานก่อนอันดับแรก ให้คุณโยมหาความสุขจากการทำงานก่อนคือ ถ้าอยากมีความสุขในการทำงานก็ต้องปลดทุกสิ่งทุกอย่างวางลงก่อน อะไรที่เราดูแล้ว คิดแล้ว ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องหนัก เอาวางลงก่อน บางคนถือของอะไรหนัก หิ้วโน๊ตบุ๊กมาทำงาน ถามว่าหนักมั้ย หนัก เอาวางลงก่อน คนเราหากรู้จักคำว่า วาง แค่วางลงก็เบาแล้วไม่ว่าเรื่องอะไรปัญหาเรื่องงาน ปัญหาส่วนตัว แฟนบอกเลิก ถูกคนรักหักอก ก็วางลงก่อน แค่รู้จักวาง แค่ปล่อยวางก็เบาแล้วนะคุณโยม ง่ายไหมปล่อยวาง ทำใจให้สบายๆ วางลงก่อนนะ อย่าเพิ่งวางหนังสือเล่มนี้ซะล่ะ อยากมีความสุขไหม ถ้าอยากมีความสุข อ่านหนังสือเล่มนี้ไปก่อนนะคุณโยม
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราถือมันไว้มันก็เป็นทุกข์ บางคนไปแบกโลกเอาไว้สุดท้ายก็เป็นทุกข์งานที่เราทำอยู่ทำทุกวันยังงัยก็หนีไม่พ้นทำตัวให้มีความสุขกับงาน มองหามุมมองดีๆ แค่พลิกมุมคิดชีวิตก็เปลี่ยนแล้วคุณโยม
คนเราส่วนใหญ่ชอบเก็บแต่เรื่องดีๆเรื่องไม่ดีไม่ต้องไปใส่ใจจำมัน ทิ้งมันไป หนักสมองเปล่าๆอาตมาว่านะ คนเราพอมีเรื่องดีๆเข้ามา ก็จะรู้สึกดีกับมันทุกครั้ง แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ใช่ไหมคุณโยม
สะบัดชายจีวรคล้องมอเตอร์ไซค์
อาตมามีเรื่องเล่าให้ฟังนะคุณโยม วันนั้งอาตมาไปบรรยายที่องค์กรแห่งหนึ่ง แถวๆ ถนนสีลม ถนนสีลมคุณโยมก็รู้ใช่ไหม รถติดกันยาว เข้าแถวเรียงกันขบวนยาวเป็นรถไฟเลย วันเกลือบไปไม่ทันเพราะมันต้องเข้าซอยด้วยสิ เลี้ยวเข้าซอยผิดเมื่อไร เป็นเรื่องทันทีวันนั้น เข้าซอยผิด ตายแล้ว ทำไงดี อาตมาโทรไปถามคุณโยมว่า”ไม่ใช่ค่ะ พระคุณเจ้าเลยซอยแล้วค่ะ”
“พระคุณเจ้าต้องเข้าซอยนี้น่ะค่ะ”เอาล่ะสิทีนี้จะทำยังงัยดีถนนสีลมมันวันเวย์อีกตะหาก มันต้องกลับรถไปตั้งหลักเริ่มเข้ามาใหม่ เหลือเวลาอีกสามสิบนาที ไม่ทัน ไม่ทันแน่ๆ คุณโยมโทรศัพมาถามอีก กดดันอาตมาเหลือเกิน “พระคุณเจ้าอยู่ที่ไหนค่ะ โยมรอท่านนะ อยู่ที่ไหนกลับมาด่วนนะ อย่าให้เลยสามสิบนาทีนะ ” นิสัย…นิสัย…
อาตมาตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเลยคุณโยม ลงจากรถเก๋ง คิดเลยนึกถึงคำพูด “อย่ามัวแต่คิดให้ลงมือทำเดี๋ยวนี้” อาตมานึกถึงคำพูดของ อับราฮัม ลินคอล์น “การกระทำ ย่อมมีเสียงดังกว่าคำพูดและความคิด” อย่ามัวแต่คิด ให้ลงมือทำ คิดจบปุ๊บอาตมาลงจากรถเก๋งเดี๋ยวนั้นเลย สะบัดขายจีวรเหมือนหลวงจีนวัดเส้าหลิน พร้อมกลับฮัมเพลงกระบี่ไร้เทียมทานอยู่ในใจ โต่ยโกจี่ซั้นฟง กินแล้วคีใส่ไหเดินตรงดิ่งไปเลย
เดินหาตำรวจ ตำรวจต้องช่วยอาตมาได้แน่ๆไปทันแน่นอนถ้าไปเจอตำรวจโชคดีมากเลยคุณโยม อาตมาเห็นตำรวจจราจรนั่งอยู่ในป้อมเล็กๆ เดินตรงเข้าไปขอความช่วยเหลือเลย ตอนนั้นอาตมาหวังว่าคุณตำรวจจะช่วยได้ ถึงปุ๊บอาตมาบอกตำรวจว่า”คุณโยมอาตมาจะไปบรรยายที่นี่”(บอกสถานที่ไป)”แต่เกรงว่าจะไปไม่ทันแล้ว คุณโยมช่วยไปส่งอาตมาหน่อยได้ไหม”
คุณตำรวจฟังอาตมาพูดจบปั๊บ หันมาตอบอาตมาดีมากเลยอาตมาชื่นใจมาก คุณตำรวจนั้นตอบว่า “ผมเป็นตำรวจจราจรครับมีหน้าที่ควบคุมคอยดูรถบนท้องถนนครับหลวงพี่”
คุณตำรวจให้คำแนะนำต่อไปว่า “โน่นครับหลวงพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่นั้น” พร้อมกับชี้นิ้วไปโน่นเลยนะ”นั่นน่ะครับหลวงพี่ผมรบกวนให้หลวงพี่ไปใช่บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างเลยครับ ผมรับรองด้วยเกียรติตำรวจของไทยเลยว่า มอเตอร์ไซค์วินจะนำท่านไปถึงที่และส่งท่านทันบรรยายแน่นอนครับ” อาตมามองหน้าคุณตำรวจท่านนั้น แล้วพูดว่าขอบคุณที่ใช้บริการนะคุณโยมนะ
สรุปวันนั้นอาตมาไปบรรยายทันแบบฉิวเฉียด ทันทีที่ไปถึงห้องบรรยายนะ อาตมาขอโทษก่อนเลย การขอโทษนี้ เป็นการบ
ขอที่ไม่ละอายเลยนะ แต่ถือเป็นการขออภัยกันใครบ้างที่ขอโทษแล้วเขาจะไม่ให้อภัย เหมือนเราเดินไปเหยียบเท้าเพื่อนน่ะนะ ก็ขอโทษเพื่อนสิคุณโยม “ขอโทษนะเพื่อนเรามองไม่เห็น”เพื่อนปรายตามองเรา”ไม่เป็นไรอ่ะ มองไม่เห็นแล้วทำไมเหยียบถูก”
ฉะนั้นใครที่อยากมีความสุข ต้องมาหา เราหาความสุข ได้ง่ายๆ ด้วยการรู้จักวาง วางลงก่อนอันดับแรก
บางสิ่งไม่ควรจำ ถ้ามันทำให้ใจเราเจ็บ แต่บางสิ่งก็ควรเก็บหากเป็นความเจ็บที่น่าจำ
นี่อาตมาไปบรรยายนะ ต้องพูดซ้ำว่า โปรดฟังอีกครั้งคือเราอย่าไปสนใจ เรื่องบางเรื่องมันจบไปแล้ว มันเป็นอดีตไปแล้วให้สนใจปัจจุบันดีกว่า อนาคตต่างหากที่ต้องดำเนินไปนะคุณโยมพูดกันว่า อดีตคือขี้เถ้า ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง อนาคตคือหนังโปรแกรมหน้าที่รอวันฉาย ปัจจุบันคืองานปูพื้นฐานรอวันตาย เรามัวเสียเวลามันก็น่าเสียดาย อย่าเป็นคนผัดวันประกันพรุ่งนะคุณโยม
เปลี่ยนแปลงบรรยากาศ
วันนี้คือวันนี้ งานใดมีรีบขนขวาย ใช้ชีวิตอย่าอับจน ราคาคนคือผลงาน ชีวิตคนเราต้องอยู่กับปัจจุบันคือ ให้เข้าใจ คำว่า ปัจจุบัน เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ อย่ามัวเสียเวลาเสียใจกับความทุกข์ที่มีอยู่ จะไปเสียเวลาในความทุกข์ทำไม แล้วอย่าเสียเวลาการทะเลาะกันในครอบครัวนะคุณโยม ทำชีวิตครอบครัวให้เป็นสุข อย่าเอาเหตุแห่งทุกข์มาละลายความสุขในการทำงานสร้างบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่ดีในการทำงาน จงทำให้เพื่อนร่วมงานรอบๆ ตัวเรามีความสุขดีกว่า
ไหว้ ยิ้ม ทักทาย จำง่ายๆ แค่สามอย่างนี้ บางคนถามว่าไหว้นี่มีความสุขตรงไหน เราคิดถึงคนที่ถูกไหว้ “หวัดดีครับพี่” ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทาย คนถูกไหว้รู้สึกเลยว่า โอ้โห…มีสัมมาคารวะนะเนี่ย ผู้ใหญ่ท่านนั้นเกิดความรู้สึกเอ็นดูเราทันทีเลย นั่นไงความสุขง่ายๆ เกิดขึ้นแล้วนะคุณโยม สังเกตดูนะ จงชนะเด็กด้วยการให้ชนะผู้ใหญ่ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตนผู้น้อยไหว้ผู้ใหญ่ผู้ใหญ่เอ็นดูแน่นอนความสุขเกิดขึ้นแล้ว
ถ้าเกิดเดินผ่านแล้วทักผู้ใหญ่แบบห้วนๆ “หวัดดีครับ” ยกมือไหว้แผล็บแล้วเดินจากไปไหว้แบบส่งๆ ผู้ใหญ่คนที่ถูกไหว้จะรู้สึกเลยอืมม์…ไอ้นี่ใครว่ะเนี่ยโดนแล้วสิ โดนกากบาทเลย นี่แสดงว่าไม่มีการทำหน้าที่ของตัวเอง
เขาบอกว่า รอยยิ้ม และเสียหัวเราะเป็นอายุวัฒนะเสียงหัวเราะหนึ่งครั้ง อายุยื่นเป็นเจ็ดวัน ถ้าไม่เชื่อ คุณโยมลองหัวเราะดูสิ หัวระง่ายๆ “หึหึหึ” แค่นี้เอง เห็นมั้ย มีความสุขแล้ว อายุยืนยืดยาวไปอีกเจ็ดวัน อย่าไปเดินหัวเราะคนเดียวทั้งวันล่ะ เพราะคิดว่าอายุจะยาวหมื่นๆปี ไอ้อย่างนี้ ต้องส่งไปหัวเราะต่อในศรีธัญญาแล้ว หัวระทั้งวันได้นี่ก็บ้าแล้วล่ะคุณโยม
ฮิๆแบบทหาร
อาตมาเคยไปบรรยายในกระทรวงกลาโหมนะโอ้โห…ทหารทั้งนั้นเลย นั่งกันหน้าเข้มเลยแต่ละคน นั่งกันนิ่ง บรรยายยังงัยๆ ก็เงียบ กดดัน ใจไม่ดีแล้วสิทีนี้ อาตมาชี้นิ้วไปที่นายทหารท่านหนึ่ง “คุณโยมนั่นแหละ ไหนลองหัวเราะตามอาตมาสิ ฮิฮิ สองคำก็พอไหนลองสิ ฮิฮิ หัวเราะฮิฮิ ดูไม่ดี ก็เอาแค่ อิอิ ก็ได้อ่ะ” ในห้องประชุมเริ่มอมยิ้มกัน พอคลื่นเสียหัวเราะเกิด ก็มีความสุขกันถ้วนหน้า
หัวเราะกันง่ายๆ ก็ได้คะแนนแห่งความสุขแล้วน่ะคุณโยมทำง่ายๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ย เวลาที่คนหัวเราหัวเราะนี่ หน้าจะเป็นสีชมพูชมพูระเรื่อเลย หัวเราะแล้วก็ยิ้ม แค่ยิ้มก็หน้าแดงแล้ว อาตมาขอยกตัวอย่างในวงการแพทย์ ดร.วัลลภ ท่านตั้งหัวข้อ หัวเราะเคาะโรคเพราะการหัวเราะนี่ จะทำให้ร่างกายคนเราหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมานะคุณโยม สานตัวนี้จะหลั่งออกมาที่เราหัวเราะ เรายิ้ม หรือตอนที่เรามีความสุขนั่นเอง
ความสุขหน้าห้องน้ำ
อาตมาจำได้ว่า ครั้งหนึ่งกำลังมีความสุขเลยนะ วันนั้นเข้าห้องน้ำอยู่ ซักพักมีคนมาเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก ไอ้ห้องน้ำรึก็มีห้องเดียวซะด้วยสิ เสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก มาพร้อมกะเสียงคนข้างนอกบ่นขึ้นมาว่า “ใครนะ ทำไมท่านเข้านานจังเลยอ่ะออกมานะ ออกมา ออกมานะ” อาตมาตอบคนเคาะประตูไปว่า “รอเดี๋ยวอีกนิดหนึ่งนะใกล้จะออกแล้วใกล้จะเสร็จแล้ว” เสียงคนหน้าห้องน้ำสวนเข้ามาแบบยังโวยไม่เลิก “นี่ถ้าท่านไม่ออกมา ผมจะออกอยู่แล้วนะ ออกมันหน้าห้องน้ำนี่แหละ” นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆมีความสุขอยู่บนทุกข์ของคนอื่นนะคุณโยม
ความสุขแบบอูฐ
อาตมามีเรื่องมีความสุขง่ายๆ และพอใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่เรื่องมีอยู่ว่า มีลูกอูฐกับแม่อูฐอยู่คู่หนึ่ง วันหนึ่งลูกอูฐถามแม่ด้วยความสงสัยว่า “แม่ครับๆ เรามีนิ้วเท้าไว้ทำไมครับ” แม่อูฐยิ้มอารมณ์ดีแล้วตอบลูกไปว่า “อ๋อ…เรามีนิ้วเท้าไว้เดินในทะเลทรายงัยลูก ทะเลทรายมันร้อนนะลูกนะ”
ลูกอูฐยังไม่หายสงสัยถามต่อว่า “แล้วเรามีขนตายาวๆ นี่เอาไว้ทำไมครับแม่” แม่อูฐกะพริบขนตายาวแล้วตอบลูกว่า “ขนตายาวๆนี่เหรอลูก เรามีเอาไว้ป้องกันทรายไงล่ะลูก เวลามีพายุทรายพัดมาขนตายาวๆ ของเรานี่แหละมันจะสามารถป้องกันทรายไม่ให้เข้าตาเราได้จะลูก”
“เอ่อ…แล้วหนอกสองอันบนหลังเรานี่ละครับแม่ มันมีไว้ทำไม” คำถามที่สงสัยยังมีมาต่อเนื่อง แม่อูฐตอบง่ายๆ ไปว่า “นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับอูฐอย่างเราเลยนะลูกจ๋า เรามีหนอกสองอันเอาไว้เก็บน้ำงัยลูก” ลูกอูฐก้มหน้ามองพื้นแล้วพูดทบทวน “เรามีนิ้วสามนิ้วนี้เอาไว้เดินในทะเลทราย เรามีขนตายาวสวยนี้เอาไว้ป้องกันทรายเข้าตา แล้วเรายังมีหนอกสองอันนี้เอาไว้เก็บน้ำ เวลาที่เราเดินข้ามทะเลทรายใช่ไหมครับแม่”
“ใช่เลยลูก…ใช่แล้ว” แม่อูฐดีใจที่ลูกเข้าใจ รีบตอบลูกอูฐไปว่า “เรามีหนอกสองอันนี่เอาไว้เดินข้ามทะเลทราย”
ลูกอูฐเงยหน้ามองแม่แล้วทำหน้าเซ็งๆ “แล้วนี่เรามาทำบ้าอะไรที่สวนสัตว์นี่ล่ะแม่ ผมล่ะโคตรเซ็งเลยแม่” ไม่ต้องมาพูดย้ำหรอกลูก แม่ก็โคตรเซ็งเหมือนกันแหละลูกเอ๊ย
เห็นไหมคุณโยม นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การที่คนเรามีทุกอย่างทุกสิ่งครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่นั้นเป็นอย่างไร ฉะนั้นถ้าคนเราพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้ พอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองเลือกแล้ว เราก็จะเป็นคนที่มีความสุขที่สุด
ฉันต้องการมีความสุข
เราจะมีความสุข สุดท้ายแล้วเราจะทำอย่างนี้นะคุณโยม(อาจารย์สมปองทำท่าชูมือขึ้นทั้งสองข้าง) เฮ…มีความสุขจังเลยง่ายๆแค่นี้นะคุณโยม อยากมีความสุขจังเลย ทำได้ไม่ยากนะคุณโยมให้ตัดคำว่า อยากมี และคำว่า จังเลย ออกไป เท่านี้ก็เหลือแต่ความสุขแล้วละคุณโยม เล่นกันง่ายๆ อย่างนี้เลย ไม่เอานะอ่านแล้วอย่าทำหน้างงอมทุกข์ด้วยความสงสัยอย่างนี้สิ ความจริงมันเป็นอย่างนี้นะคุณโยม
ให้คุณโยมลองเขียนคำว่า ฉันต้องการความสุข แล้วให้ตัดคำว่า ฉัน ออกไป คำว่า ฉัน นี่คือตัวกูของกู จำได้มั้ย หลวงพ่อพุทธทาสบอก ให้ตัดตัวกูของกูออกแล้วจะอยู่ง่ายๆ อย่างมีความสุขอย่าไปยึดมั่นมันเกินไปนะ ฉันคือตัวกู แล้วตัดคำว่า ต้องการ ออกไปอีก
คำว่า ต้องการ มันก็คือกิเลสที่ซ่อนอยู่ ก็ให้ตัดคำว่าต้องการออกไป เหมืนตัดกิเลส ตัดความยากความต้องการออกไปสุดท้ายเหลืออะไรคุณโยม ความสุขใช่ไหม ขาดอีกสองพยางค์คืออะไรจังเลย งัยคุณโยม
ทุกวันนี้หลายคนบอกว่ามีความสุข ขับรถเก๋งหรูๆ อย่าไปเชื่อ หนี้ทั้งนั้นแหละ ติดหนี้กันทั้งน้าน หลอกตัวเองว่ามีความสุขอาตมาเคยไปบรรยาย บางบริษัทมีรถยนต์ให้ดาวน์ถูกๆถามพนักงานว่า รถคันนี้ดาวน์เท่าไร พนักงานคนนั้นบอกอาตมาว่า ดาวน์แค่เจ็ดบาทครับ โอ้โห… อาตมาถามต่อเลย แล้วคุณโยมผ่อนเท่าไหร่กันล่ะ
พนักงานคนเดิมตอบ”ผ่อนเจ็ดชั่วโคตร ขอรับท่าน”
บางคนนะคุณโยมเครียดงานเหลือเกิน เกิดความทุกข์ง่ายมากๆเลย ขับรถไปบนถนน รถตัวเองไปจอดเทียบกับรถของคนอื่นความทุกข์เกิดทันที โห…ทำไมรถของเราเก่าจัง เกิดความทุกข์เลยอย่างนี้เรียกว่ายึดมั่นถือมั่น แล้วคุณโยมรู้สึกไหมว่ารถเราเก่าเพราะอะไร รถเราเก่าเพราะว่า ใช้มานานแล้ว ไม่ได้ล้าง ใช่ไหม
รถเราเก่าเพราะรถข้างๆกันที่จอดเทียบกันกับเรา เป็นรถรุ่นใหม่กว่า ครั้งหนึ่งอาตมาเคยไปบรรยายที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง แล้วถามทั้งผู้หญิง และผู้ชายในห้องว่า สามีและภรรยาเราเก่าเพราะว่าอะไรมีเสียงป้องปากพูดเบาๆ ปลายๆ แถวตอบมาว่า เมียเราเก่าเพราะใช้งานมานานแล้วครับหลวงพี่ เฮ้อ…คุณโยมเล่นพูดสะอย่างนั้นอาตมาเห็นภาพเลยนะ
วาตภัยลมพัดใบไม้ไหว เราจะเห็นว่าเป็นวาตภัย อุทกภัย ก่อนจะมานี่น้ำซึมๆก่อนนะ ทำให้เรารู้ร่วงหน้าว่าจะมีอุทกภัย อัคคีภัยก่อนเพราะเห็นควันขโมย ถึงดีรู้ว่าเป็นอัคคีภัย แต่กิ๊กกะภัยนี่สิโยม มันมาแบบไม่รู้ตัวเลยนะคุณโยม มันจะย่องมาเงียบๆโผล่บ้านไหนบ้านนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆถึงกับบ้านแตกสาแหรกขาดเลยนะคุณโยมที่ได้มีกิ๊กที่นั้นมีกรรม เพราะว่ากรรมจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ภรรยาจับได้ว่ามีกิ๊ก
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เพราะฉะนั้น อย่าไปที่นั่น ให้ไปที่ใด เพราะว่าไปที่ใดจะมีรัก แต่ไปที่นั้นจะมีทุกข์ นะคุณโยมนะ เคยมีบางคนบอกว่า ตนเองมีความสุขเพราะว่าได้แต่งงานมีสามีได้ภรรยา
อาตมาขอบอกเลย คิดอย่างนี้ผิดคุณโยม ผิดถนัด บางคน โอ้โห…แต่งงานแล้วมีความสุขจังเลย อยู่กันไปนานๆหูยย์ นรกเกิดขุมแล้วคนยังไม่แต่งงานน่ะ ตายไปตกนรก แต่คนที่แต่งงานแล้วไม่ตกนรกนะ ก็เพราะคนที่แต่งงานแล้ว มันตกนรกตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
ยังมีความสุขอีกประเภทหนึ่ง ที่หาได้ง่ายๆคือ การพูดจากันนี่แหละ ตื่นเช้ามาพูดจาอ่อนหวานให้กันเป็นสิริมงคล แค่นี้ก็มีความสุขได้ง่ายๆ แล้ว หาสุขจากการเห็น สุขจากการได้ยิน สุขจากการลิ้มรส สุขจากการสัมผัส หลากหลายความสุข
ถึงจะเป็นความสุขแบบอามิส ความสุขที่เกิดจากการอาศัยวัตถุ ก็จงมีความสุขในสิ่งนั้นนะคุณโยม เพราะเราหาความสุขได้จากการไม่เบียดเบียนใคร แต่ความสุขสุดยอดของพุทธศาสนา คือ พระนิพพาน
เริ่มจากความเข้าใจ ตถตา เป็นเช่นนั้นเอง เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างว่า คนนั้นเป็นอย่างนั้น นิสัยอย่างนั้น เราจะไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ รถบนถนนขับออกไปเมื่อไรยังไงมันก็ติด เพราะกรุงเทพ มันเป็นเช่นนั้นเอง
ยายแก่อยากขึ้นลิฟท์
ความสุขเรื่องสุดท้ายที่อาตมาอยากจะยกมาเล่านะคุณโยมเรื่องมีอยู่ว่า มียายแก่คนหนึ่งแกมีอาชีพขายถั่วลิสงต้ม แกก็กินถั่วลิสงของแก วันนั้นแกมากรุงเทพฯ พอมาถึงแล้วก็อยากลองขึ้นลิฟท์ดูบ้างก็ขึ้นลิฟท์เลย ปรากฏว่า พอลิฟท์ถึงชั้นสอง ลิฟท์เราปิดก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาดคุณนายเลย เดินเข้าลิฟท์มา โห…กลิ่นงี้ฟุ้งมาแต่ไกลหอมมากเลย ยายแก่รู้สึก โอ้ยยย…ทำไมผู้หญิงคนนี้วาสนาดีแท้เนื้อตัวนี่ทำไมหอมจังเลย ผู้หญิงคนนั้นก็เชิดหน้าใส่เลย (ชาแนลขวดละสองพัน)
ลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นสาม มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาอีกโห…หอมกว่าเดิมอีก ผู้หญิงคนที่มาใหม่เชิดหน้าใส่ (ซีเค ขวดละสามพันห้า) พอถึงชั้นสี่ คราวนี้มีผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอีก เครื่องประดับพราวเต็มตัวมาเลย กลิ่นน้ำหอมฟุ้งมาตั้งแต่ลิฟท์ยังไม่เปิด
เข้ามาถึงก็เชิดหน้าใส่คนทั้งหมดนั่นว่า เชอะ…(ฟิชลอเร้นขวดละเก้าพันห้า)โอ้โห…แพงกว่าอีก ยายแก่คงหมั่นไส้แม่สาวพวกนี้จะแย่แล้ว พอลิฟท์ถึงชั้นห้า ก่อนลิฟท์เปิด แกตดเสียงสนั่นลั่นลิฟท์ป้าดด์ “เป็นงัยพวกมึง ถุ่วลิสงต้มของกู ถุงละสิบบาท หอมมั้ย” แล้วก็เชิดหน้าเดินไป
อย่าไปอวดกันโยมเอ๋ยย…คนที่ชอบอวดมั่งอวดมีกันคนอื่นนี่ จะจนนะคือคนที่มีอยู่แล้ว ถ้าเราทำตัวเป็นไม่มี เราจะมี เป็นคนที่มีอยู่แล้ว ถ้าทำตัวมี จะจน ว่ากันว่านะคุณโยม การมีเงินมากมายไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่า คุณจะมีความสุขมากกว่าคนอื่นหรือไม่ เงินสามารถซื้อเตียงนอนหนานุ่มได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อความสุขที่จะนอนบนเตียงหนานุ่มได้ เงินสามารถซื้อปากกาซื้อดินสอได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อความเป็นบัณฑิต หรือความเป็นกวีได้
เงินสามารถซื้อคนได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อใจคนได้ อย่าไปแสวงหาความสุขในทางที่ผิดๆ นะคุณโยม ความสุขเหล่านี้เป็นความสุขแบบฉาบฉวย
ความสุขหาง่ายๆอย่างนี้จริงๆถึงเวลากินต้องกินให้อร่อยถึงคราวที่ต้องเล่นก็เล่นให้สนุก ครั้งถึงเวลาหลับก็ต้องหลับให้สบายสามอย่างนี้ อย่าไปทำให้เดือดร้อนใคร เท่านี้ก็มีความสุขได้แล้วสุดท้าย อาตมาขอยกสิ่งที่หลวงพ่อชาได้เขียนไว้อย่างนี้
ทุกข์มีเพราะ ยึด
ทุกข์ยืดเพราะ อยาก
ทุกข์มากเพราะ พลอย
ทุกข์น้อยเพราะ หยุด
ทุกข์หลุดเพราะ ปล่อย
คนเราถ้าอยากมีความสุข ทำง่ายๆ ปล่อยวางมันเสีย แค่นี้เองมีความสุขแล้วใช่ไหม เจริญพร….
อ้างอิง จากเรื่อง พระมหาสมปอง ตาลปุตโย และทีมธรรมเดลิเวอรี่
บรรณาธิการ นักรบ พิมพ์ขาว
เรียบเรียง สิทธา วรรณสวาท
พิสูจน์อักษร มานิดา ณ บางช้าง
ศิลปกรรมรูปเล่ม ชุติมา ภิญโญยิ่ง
ศิลปกรรมปก มาริสา งามพิทยพร
ภาพการ์ตูน อนันต์ วาโซะ วสันต์ พึ่งพูลผล
อ้างอิง จากเรื่อง พระมหาสมปอง ตาลปุตโย และทีมธรรมเดลิเวอรี่
บรรณาธิการ นักรบ พิมพ์ขาว
เรียบเรียง สิทธา วรรณสวาท
พิสูจน์อักษร มานิดา ณ บางช้าง
ศิลปกรรมรูปเล่ม ชุติมา ภิญโญยิ่ง
ศิลปกรรมปก มาริสา งามพิทยพร
ภาพการ์ตูน อนันต์ วาโซะ วสันต์ พึ่งพูลผล
อยากมีความสุขเราต้องทำให้จิตเรามีก่อนนะค่ะถึงจะมีความสุขได้
ตอบลบจร้าาาา
ตอบลบอยากมีความสุขลองทำดู
ตอบลบลองเลยค่ะ
ลบมีความสุข
ตอบลบมีความสุขจริงอ่ะ
ลบขาดความอบอุ่นหรอ
ตอบลบเงินสามารถซื้อคนได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อใจคนได้...ประโยคนี้โดนนนเลยยย
ตอบลบคนเราอยากมีความสุขแค่ปล่อยวาง แต่บางเรื่องมันปล่อยวางไม่ได้จริงๆ
ตอบลบสุขหรือทุกข์ อยู่ที่เราเลือกเอง
ตอบลบอยากมีความสุขเหมือนกาน
ตอบลบ